แถบเครื่องมือใน Gemlogin

นอกเหนือจากที่ได้กล่าวไปแล้ว โปรแกรมของเรายังมีแถบเครื่องมืออื่นๆ ที่จะช่วยให้คุณใช้งานแอปพลิเคชัน GemLogin ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้:

Automation >> Schedule

นอกจากเครื่องมือ Automation ที่ใช้สำหรับสร้างกระบวนการทำงานแล้ว คุณยังสามารถตั้งค่าขั้นสูงเพิ่มเติมสำหรับกระบวนการทำงานได้ เช่น การกำหนดวันที่/เวลา (Scheduling) ให้ Workflow ทำงานตามเวลาที่กำหนด ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจัดการงานต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ให้สังเกตที่มุมด้านขวาของหน้าจอ แล้วคลิกที่ปุ่มตามที่แสดงในรูปภาพ เพื่อเข้าสู่การตั้งค่าการกำหนดช่วงเวลาของการทำงาน ซึ่งคุณสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง วัน-เวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด หรือการตั้งค่าให้กระบวนการทำงานซ้ำในช่วงเวลาที่กำหนด ตัวอย่าง: การเลือกใช้การตั้งค่าการกำหนดวันเวลาใน Workflow

Package

หลังจากที่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถจัดการกับแพคเกจต่างๆ ได้ที่แถบ Manage Package ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถติดตั้ง ปรับแต่ง หรืออัปเดตแพคเกจที่จำเป็นสำหรับการใช้งานตามที่คุณต้องการ

โดยแพคเกจประเปรียบเหมือนชุดคำสั่งอัตโนมัติที่จะช่วยเสริมการทำงานของคุณให้สมบูรณ์ และลดข้อผิดพลาดได้มากยิ่งขึ้น โดยในเเพคเกจจะมีให้ดาวน์โหลดเเละติดตั้ง จากนั้นเลือกใช้เเพคเกจที่ติดตั้งได้ในหน้าต่างของกระบวนการทำงาน

Extension

การติดตั้ง Extension เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งการทำงานบนบราวเซอร์ หรือบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของคุณมากขึ้น

การเปิด-ปิดการใช้งาน เลือกตามความต้องการของเรา

สำหรับการเพิ่ม Extensionเพิ่มเติม คุณสามารถทำได้โดยคลิกที่ปุ่มข้างๆ (เช่น ปุ่มเมนูหรือไอคอนที่แสดงว่าเป็นส่วนเสริม) จากนั้นค้นหา Extension ที่คุณต้องการในแถบค้นหา หลังจากที่เจอ Extensionที่ต้องการแล้ว คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันทีเพื่อเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้กับแอปพลิเคชันของคุณ

ตัวอย่าง Extension ต่างๆที่มีให้ดาวน์โหลด

Members

คุณสามารถแชร์การทำงานและเพิ่มสมาชิกเพื่อร่วมทำงานในโปรเจ็กต์ได้ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานร่วมกันเป็นทีมเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาระบบ และจะเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้ โปรดติดตามการอัปเดตจากผู้พัฒนาเพื่อเริ่มใช้งานฟีเจอร์นี้เมื่อพร้อมใช้งาน

Database

ในส่วนนี้เป็นพื้นที่สำหรับจัดการหรือเก็บข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบของตาราง Tableซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อบันทึก จัดระเบียบ และแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานต่างๆ ใน Workflow ของคุณ

เมื่อคุณต้องการสร้างตารางสำหรับเก็บข้อมูลใน Workflowการสร้างโครงสร้างของตารางและคอลัมน์เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ หลังจากนั้นคุณสามารถใส่ข้อมูลและตัวแปรต่างๆ ลงในตารางได้ในภายหลัง สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อสร้างตารางคือการกำหนดชนิดของข้อมูลในแต่ละคอลัมน์ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ใส่ลงไปในตารางมีความสอดคล้องและถูกต้องตามประเภทที่กำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยให้การจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างของชนิดข้อมูลที่อาจกำหนดได้ในแต่ละคอลัมน์ ได้แก่: - Text (ข้อความ): สำหรับข้อมูลที่เป็นตัวอักษร เช่น ชื่อผู้ใช้งาน, อีเมล, สถานะ เป็นต้น - Number (ตัวเลข): สำหรับข้อมูลที่เป็นตัวเลข เช่น จำนวน, คะแนน, หรือข้อมูลเชิงปริมาณอื่นๆ -Array: เป็นโครงสร้างข้อมูลชนิดหนึ่งที่ใช้ในการจัดเก็บชุดของข้อมูลที่มีชนิดเดียวกัน โดยข้อมูลใน Array จะถูกจัดเก็บในลำดับที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลแต่ละตัวได้โดยใช้ดัชนี (Index) ซึ่งเริ่มต้นที่ 0 (ในภาษาโปรแกรมส่วนใหญ่) - Boolean(จริง/เท็จ): สำหรับข้อมูลที่มีเพียงสองสถานะ เช่น ใช่/ไม่ใช่, เปิด/ปิด, หรือ Active/Inactive - Any: เป็นตัวแปรชนิดหนึ่งที่สามารถเก็บข้อมูลได้หลายประเภท โดยไม่จำกัดชนิดข้อมูลเฉพาะใด ๆ ซึ่งหมายความว่า Any สามารถเก็บได้ทั้งตัวเลข (Integers, Floats), ข้อความ (Strings), อาร์เรย์ (Arrays), วัตถุ (Objects) หรือข้อมูลประเภทอื่น ๆ การใช้งาน Any มักเกิดขึ้นเมื่อคุณไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่รับเข้ามาจะเป็นชนิดไหน หรือเมื่อคุณต้องการให้ฟังก์ชันหรือฟีเจอร์หนึ่ง ๆ สามารถทำงานกับข้อมูลหลายประเภทได้อย่างยืดหยุ่น

ตัวอย่างการใช้งานส่วนนี้: - การบันทึกผลลัพธ์หรือข้อมูลที่ดึงมาจากเว็บไซต์ต่างๆ - การจัดการข้อมูลผู้ใช้งานที่ถูกนำมาใช้ในกระบวนการต่างๆ - การติดตามสถานะหรือการดำเนินงานของแต่ละขั้นตอนใน Workflow - การสร้างตารางข้อมูลสำหรับการรายงานหรือวิเคราะห์ผลการทำงาน - การใช้ตารางในการจัดการข้อมูลจะช่วยให้คุณสามารถดูและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ และสะดวกมากยิ่งขึ้น

Setting

Setting >> Automation

การตั้งค่าขนาดแท็บบราวเซอร์อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถจัดการตำแหน่งขององค์ประกอบต่างๆ บนหน้าจอได้อย่างถูกต้องและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการแสดงผลที่แตกต่างกันในแต่ละขนาดหน้าจอ

การตั้งค่าขนาดของแท็บบราวเซอร์เป็นขั้นตอนที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการเปิดหลายแท็บในเวลาเดียวกัน การกำหนดขนาดของหน้าจอ มีผลโดยตรงต่อการจัดวางและการระบุตำแหน่งขององค์ประกอบ Elementต่างๆ บนหน้าเว็บ ดังนั้น เพื่อให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ เราขอแนะนำให้คุณตั้งค่าขนาดของแท็บบราวเซอร์ก่อนทุกครั้ง ก่อนเริ่มสร้างหรือรัน Workflow