ตัวเลือก Action ในบล็อค JavaScript Code
ช่วยให้คุณสามารถ รันคำสั่ง JavaScript
ภายใน GemPhoneFarm ได้ เช่นการ ตั้งเงื่อนไขที่ซับซ้อน, การใช้งานคำสั่งที่จำเป็น
ตัวเลือก Execution context
คุณสามารถเลือกรันโค้ด JavaScript
ได้โดยการเลือกประเภทของ Execution context
Active tab: เป็นการรันบนหน้าเว็บที่กำลังใช้งาน
Background: เป็นการรัน JavaScript อยู่เบื้องหลัง Application
เวลาในการรอ
ระยะเวลาสูงสุดที่ Node จะทำงาน โดยค่าเริ่มต้นคือ 20 วินาที หากโค้ดเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด กระบวนการจะดำเนินการต่อไปยัง Node ถัดไป หาก Node ไม่เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด กระบวนการจะหยุดทำงาน
ฟังก์ชั่นที่อยู่ภายในบล็อค JavaScript Code
ในบล็อค JavaScript Code
มีฟังก์ชั่นที่สร้างไว้ล่วงหน้า ซึ่งคุณสามารถเรียกใช้ใน Node นี้ได้โดยมีฟังก์ชันดังนี้:
NextBlock()
สามารถเลือกได้จะให้บล็อกอะไรทำงานเป็นลำดับถัดไป และ สามารถบันทึกข้อมูลลงใน Column ของ Table ได้
รูปแบบการเขียนพารามิเตอร์
NextBlock({ name: 'A', age: 24 });
// หรือ
NextBlock([{ name: 'A', age: 24 }, { name: 'A1', age: 24}])
// ดำเนินการต่อไปยัง Node ที่ระบุ
NextBlock({ name: 'A' }, { nextBlockId: '4dxcxa3' })
ตัวอย่างเช่น:
NextBlock({Data:’A’}) //เป็นการบันทึก ‘A’ ลงในตัวแปร Data ใน table
หมายเหตุ: จำเป็นต้องสร้าง Column ไว้ในTable ก่อน
ฟังก์ชั่นที่สามารถใช้ร่วมกับ NextBlock():
insert
เป็นการกำหนดว่าเราต้องการให้แทรกข้อมูลหรือไม่ ค่าที่ใช้จะเป็น boolean เช่น true/false หากเราไม่ระบุ insert ค่าเริ่มต้นจะเป็น true
ตัวอย่างการใช้งาน:
NextBlock({Data:’A’},{insert:true})
NextBlock({Data:’A’},{insert:false})
ผลที่ได้คือ: A จะไม่ถูกบันทึกลงในตัวแปร Data เนื่องจาก insert เป็น false
ในตัวอย่างนี้ใช้บล็อค Insert Data ในการ กำหนด B ไว้ในตัวแปร Data ก่อนหน้านี้แล้ว
nextBlockId
ฟังก์ชันนี้เป็นการระบุว่าเราต้องการให้อะไรทำงานเป็นลำดับถัดไป โดยระบุผ่าน ID ของบล็อกนั้นๆ เช่น หาก 2 บล็อคต่อกับ JavaScript code
เราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้ไหนทำงานเป็นลำดับถัดไป
ตัวอย่างการใช้งาน:
NextBlock({Data:’A’},{nextBlockId:’vwbv3nv’})
เราสามารถคัดลอก ID ของได้เมื่อนำเมาส์ไปวางบนบล็อค
หาก เราไม่กำหนดว่าให้บล็อกทำงานเป็นลำดับถัด บล็อคจะทำงานพร้อมกัน
แต่หาก ระบุ nextBlockId ก็ จะสามารถเลือกได้ว่าให้บล็อคไหนทำงานเป็นลำดับถัดไป
replaceTable
แทนที่ค่าตัวแปรในตารางด้วยค่าที่ตั้งไว้ในพารามิเตอร์แรก โดยเราสามารถกำหนดว่าจะให้แทนที่ค่าหรือไม่ ด้วยคำสั่ง boolean true/false ค่าเริ่มต้นจะเป็น false เช่น
NextBlock({Data:"A"},{nextBlockId:'vwbv3nv',replaceTable:true})
หาก ตัวแปร Data เก็บค่า B ไว้แล้ว เมื่อกำหนดพารามิเตอร์ replaceTable จะมีค่าเป็น true
RefData(keyword, path?)
ใช้สำหรับดึงข้อมูลจากตัวแปร
หรือ table
ของโปรแกรม ตัวอย่างเช่น
หากมีตัวแปรชื่อ number ใน variables จะสามารถใช้ RefData('variables', 'number')
เพื่อดึงข้อมูลตัวแปรนั้นได้
SetVariable(name, value)
ใช้สำหรับประกาศ หรืออัพเดตข้อมูลตัวแปร
หรือ table
ของโปรแกรม ตัวอย่างเช่น
คุณสามารถประกาศตัวแปรขึ้นมาใหม่ โดยใช้ SetVariable(‘name’, ‘Bob’)
เพื่อสร้างตัวแปรที่ชื่อว่า name ที่เก็บค่า Bob
หากมีตัวแปรอยู่แล้ว สามารถอัพเดตได้ เช่น ถ้ามีตัวแปร number เป็นค่า 10 เราสามารถใช้ SetVariable(‘number’, 20)
เพื่อเปลี่ยนค่าเป็น 20 ได้