Google Sheets
Google Sheets: จัดการข้อมูลใน Google Sheets
อ่านหรือเขียนข้อมูลในสเปรดชีต Google Sheets
การเข้าถึงสเปรดชีต ก่อนที่คุณจะใช้ Node นี้ คุณต้องให้สิทธิ์ Automation ในการเข้าถึงสเปรดชีตก่อน
คุณสามารถแชร์สเปรดชีตให้เป็นสาธารณะได้ เมื่อคุณแชร์สเปรดชีตให้เป็นสาธารณะ Automation จะมีสิทธิ์เข้าถึงสเปรดชีตนั้นเพื่ออ่านเท่านั้น และหากคุณต้องการอัปเดตค่าของเซลล์ในสเปรดชีต คุณจำเป็นต้องแชร์สเปรดชีตกับบัญชี Automation เพื่อทำสิ่งนี้ ให้เปิดสเปรดชีตที่คุณต้องการแชร์ คลิกที่ปุ่มแชร์ที่ด้านบน และแชร์สเปรดชีตให้เป็นสาธารณะ
ID ของสเปรดชีต
ID ของสเปรดชีตประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมายขีดกลาง หรือเครื่องหมายขีดล่าง และคุณสามารถพบได้ใน URL ของ Google Sheets:
ค่าของสเปรตชีต ID จะอยู่ระหว่าง /d/สเปรตชีต ID/edit
ซึ่ง ID ของสเปรดชีต คือ:
ช่วง
ช่วงของค่าที่คุณต้องการดึง อัปเดต หรือ ลบ คุณสามารถกำหนดช่วงของเซลล์ได้โดยใช้สัญลักษณ์ A1
เช่น Sheet1!A1:B2
หรือ A1:B2
หรือใช้สัญลักษณ์ R1C1 เช่น Sheet1!R1C1:R2C2
หรือ R1C1:R2C2
ดึงค่าจากเซลล์ในสเปรดชีต
ดึงค่าของเซลล์จากสเปรดชีตโดยใช้ลิงก์ของ Google Sheets นั้น
คีย์อ้างอิง: คีย์อ้างอิงที่ใช้ในการระบุข้อมูลใน Google Sheets
ใช้แถวแรกเป็นคีย์
เมื่อเลือกใช้แถวแรกของสเปรดชีตเป็นคีย์ ค่าที่อยู่ในคอลัมน์ที่สอดคล้องกันจะถูกระบุตามคีย์นั้น
และคุณสามารถดึงค่าต่างๆ ได้โดยใช้คีย์นี้
ตัวอย่าง: เมื่อคุณมีสเปรดชีตดังนี้
foo
22
bar
23
ชื่อคอลัมน์ที่ใช้เป็นคีย์หลัก ในกรณีที่คุณต้องการใช้ข้อมูลที่ตรงกับโปรไฟล์ที่กำลังใช้งานอยู่ ให้เลือกตัวเลือกนี้ตัวอย่าง เมื่อคุณ มีสเปรดชีตดังนี้
2
foo
22
3
bar
23
หากคุณต้องการให้เมื่อรันโปรไฟล์ที่มี ID เท่ากับ 2 แล้วใช้ค่าที่เป็น foo คุณควรเลือกตัวเลือกนี้ จากนั้นคุณสามารถดึงค่า foo
โดยใช้สูตร {{googleSheets.referenceKey.[profileId].name}}
เมื่อรันโปรไฟล์ที่มี ID เท่ากับ 2 จะดึงค่าที่เป็น foo
และเมื่อรันโปรไฟล์ที่มี ID เท่ากับ 3 จะดึงค่าที่เป็น bar
ดึงช่วงของสเปรดชีต
ดึงค่าช่วงของสเปรดชีต จากนั้นกำหนดค่านั้นให้กับตัวแปรหรือคอลัมน์ที่ต้องการ
ช่วงของสเปรดชีต
กำหนดให้ตัวแปร: กำหนดช่วงของข้อมูลให้กับตัวแปร
แทรกลงในตาราง: กำหนดช่วงของข้อมูลให้กับคอลัมน์
อัปเดตค่าของเซลล์ในสเปรดชีต
ตัวเลือกการป้อนค่า
กำหนดวิธีการแปลความหมายของข้อมูลที่ป้อน ค่าเริ่มต้นคือ RAW
RAW: ค่าที่ผู้ใช้ป้อนจะไม่ถูกแปลงและจะถูกเก็บรักษาไว้ตามเดิม ตัวอย่าง: ค่าที่ป้อนคือ
"123"
รูปแบบการจัดเก็บจะเป็น"123"
USER_ENTERED: ค่าจะถูกแปลความหมายเหมือนกับที่ผู้ใช้ป้อนในอินเทอร์เฟซ ค่าตัวเลขจะยังคงเป็นตัวเลข แต่สตริงอาจถูกแปลงเป็นตัวเลข วันที่ ฯลฯ ตามกฎที่ใช้เมื่อป้อนข้อความลงในเซลล์ผ่านอินเทอร์เฟซ Google Sheets ตัวอย่าง: ค่าที่ป้อนคือ
"123"
รูปแบบการจัดเก็บจะเป็น123
ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลเพื่ออัปเดตสเปรดชีต ค่าเริ่มต้นคือ ตาราง
ตาราง: ดึงข้อมูลที่ถูกแทรกในตาราง
ใช้คีย์เป็นแถวแรก: ใช้คอลัมน์เป็นแถวแรกในสเปรดชีต
กำหนดเอง: ข้อมูลที่ป้อนต้องเป็นอาร์เรย์ที่มีไวยากรณ์ JSON ที่ถูกต้อง ตัวอย่าง:
แทรกหรือเพิ่มค่าของเซลล์ในสเปรดชีต ดึงค่าช่วงของสเปรดชีต จากนั้นกำหนดค่านั้นให้กับตัวแปรหรือคอลัมน์ที่ต้องการ
ตัวเลือกการป้อนค่า
กำหนดวิธีการแปลความหมายของข้อมูลที่ป้อน ค่าเริ่มต้นคือ RAW
RAW: ค่าที่ผู้ใช้ป้อนจะไม่ถูกแปลงและจะถูกเก็บรักษาไว้ตามเดิม ตัวอย่าง: ค่าที่ป้อนคือ "123" รูปแบบการจัดเก็บจะเป็น
"123"
USER_ENTERED: ค่าจะถูกแปลความหมายเหมือนกับที่ผู้ใช้ป้อนในอินเทอร์เฟซ ค่าตัวเลขจะยังคงเป็นตัวเลข แต่สตริงอาจถูกแปลงเป็นตัวเลข วันที่ ฯลฯ ตามกฎที่ใช้เมื่อป้อนข้อความลงในเซลล์ผ่านอินเทอร์เฟซ Google Sheets ตัวอย่าง: ค่าที่ป้อนคือ
"123"
รูปแบบการจัดเก็บจะเป็น123
ตัวเลือกการแทรกข้อมูล
OVERWRITE: เขียนทับข้อมูลเดิม
INSERT_ROWS: แทรกแถวใหม่
ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลเพื่ออัปเดตสเปรดชีต ค่าเริ่มต้นคือ ตาราง
ตาราง: ดึงข้อมูลที่ถูกแทรกในตาราง
ใช้คีย์เป็นแถวแรก: ใช้คอลัมน์เป็นแถวแรกในสเปรดชีต
กำหนดเอง: ข้อมูลที่ป้อนต้องเป็นอาร์เรย์ที่มีไวยากรณ์ JSON ที่ถูกต้อง ตัวอย่าง:
ลบค่าของเซลล์ในสเปรดชีต ลบค่าของสเปรดชีตตามช่วงที่เลือก
เข้าถึงข้อมูลของสเปรดชีต
เพื่อเข้าถึงค่าของสเปรดชีตจากอินพุตของ Node คุณสามารถใช้สูตรที่มีไวยากรณ์เช่น
{{ googleSheets.referenceKey.path }}
ตัวอย่าง
กรณีการดึงข้อมูลจาก Node Google Sheet ที่มีคีย์อ้างอิงว่า data
และข้อมูลใน Google Sheets เป็นดังตารางต่อไปนี้
An
18
Manh
23
เพื่อดึงค่าชื่อ (name
) ของแถวแรก เราจะใช้ไวยากรณ์ {{googleSheets.data.0.name}}
Last updated
Was this helpful?