แถบเครื่องมือใน Gemlogin

ในโปรแกรมของเรา ยังมีแถบเครื่องมือที่ช่วยให้คุณใช้งานโปรแกรม Gemlogin ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แถบเครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น แต่ยังมีการจัดระเบียบและแบ่งแยกฟังก์ชันต่าง ๆ อย่างชัดเจน ทำให้คุณสามารถค้นหาและใช้งานเครื่องมือที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยการแบ่งฟังก์ชันการใช้งานออกเป็นหัวข้อดังนี้ :


Profile

ในแถบ Profile ของ Gemlogin คุณจะพบเครื่องมือที่ช่วยให้การสร้างและจัดการโปรไฟล์ของคุณทำได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานหลัก ๆ ที่คุณสามารถทำได้ในแถบนี้ :

  1. สร้างโปรไฟล์ใหม่: คุณสามารถสร้างโปรไฟล์ที่ต้องการใช้งานได้ตามความต้องการ

  2. จัดการข้อมูลโปรไฟล์: คุณสามารถแก้ไขข้อมูลบัญชีแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของโปรไฟล์

  3. เพิ่ม Proxy: ฟีเจอร์ที่สำคัญคือการเพิ่ม Proxy ให้กับโปรไฟล์ต่าง ๆ ซึ่งช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณและทำให้สามารถจัดการการเชื่อมต่อจากหลายที่อยู่ IP ได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงจากการโดนตรวจจับหรือถูกแบนจากการใช้งาน

  4. จัดการโปรไฟล์กลุ่ม: คุณยังสามารถจัดกลุ่มโปรไฟล์ที่มีลักษณะการใช้งานเหมือนกันเพื่อง่ายต่อการแยกประเภทของโปรไฟล์

ทั้งหมดนี้ช่วยให้การจัดการโปรไฟล์ใน Gemlogin เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณสามารถควบคุมและปรับการตั้งค่าของโปรไฟล์ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการตั้งค่าโปรไฟล์แต่ละตัวในหลายขั้นตอน


Automation

แถบ Automation คือแถบเครื่องมือที่จะให้คุณสร้างและจัดการ Workflow อัตโนมัติ โดยในแถบนี้ คุณจะสามารถ:

  1. สร้าง Workflow ใหม่: ออกแบบการทำงานที่คุณต้องการให้เป็นอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง

  2. จัดการ Workflow ที่มีอยู่: สามารถเข้าไปแก้ไขหรือตรวจสอบ Workflow ที่เคยสร้างไว้ได้อย่างสะดวก

  3. ส่งออกและนำเข้าสคริปต์ได้อย่างอิสระ: คุณสามารถส่งออกสคริปต์ที่ทำ และนำเข้าสคริปต์ได้ผ่านแถบนี้


Marketplace

แถบ Marketplace เป็นแถบที่ผู้ใช้งานโปรแกรมสามารถเข้ามาเพื่อซื้อสคริปต์ และดาวน์โหลดสคริปต์ใช้งานฟรีใน Marketplace

  1. สคริปต์ที่สามารถแก้ไขได้ สามารถตรวจสอบได้ที่ด้านล่างของชื่อสคริปต์ หากเป็นรูปแม่กุญแจสีเขียว หมายความว่า สคริปต์นั้นสามารถแก้ไขได้ เมื่อดาวน์โหลดแล้วจะเข้าไปแก้ไขในหน้า Workflow ได้อย่างอิสระ

  2. สคริปต์ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ สามารถตรวจสอบได้ที่ด้านล่างของชื่อสคริปต์ หากเป็นรูปแม่กุญแจสีแดง หมายความว่า สคริปต์นั้นไม่สามารถแก้ไขได้ เมื่อดาวน์โหลดจะไม่สามารถเข้าไปแก้ไขในหน้า Workflow ได้ แต่สามารถใช้งานผ่านหน้าต่างโปรไฟล์และตั้งพารามิเตอร์ได้ตามปกติ

หลังจากที่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถติดตั้ง, ปรับแต่ง หรืออัปเดตสคริปต์ ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานตามที่คุณต้องการ


Package

หน้าจอนี้ใช้สำหรับจัดการชุดคำสั่ง โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด, นำเข้า หรือสร้างชุดคำสั่งใหม่ จากนั้นบันทึกเป็นแพ็กเกจ Package เพื่อใช้งานร่วมกับสคริปต์อื่น ๆ ได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องสร้างชุดคำสั่งซ้ำในทุกครั้ง

แพ็กเกจประเปรียบเหมือนชุดคำสั่งอัตโนมัติที่จะช่วยเสริมการทำงานของคุณให้สมบูรณ์ และลดข้อผิดพลาดได้มากยิ่งขึ้น ในเเพ็กเกจจะมีให้ดาวน์โหลดเเละติดตั้ง จากนั้นเลือกใช้เเพคเกจที่ติดตั้งได้ในหน้าต่างของกระบวนการทำงาน

ภายในหน้าแพ็กเกจจะประกอบด้วยเมนูหลัก 2 เมนู ดังนี้

  1. Store Packages สำหรับดาวน์โหลดชุดคำสั่งต่าง ๆ จากหน้าร้านค้า

  2. Manage Packages สำหรับนำเข้าชุดคำสั่งจากภายนอก หรือสร้างชุดคำสั่งใหม่ตามต้องการ


Extension

การติดตั้ง Extension เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งการทำงานบนบราวเซอร์ หรือบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของคุณมากขึ้น

การเปิด-ปิดการใช้งาน เลือกตามความต้องการของเรา

สำหรับการเพิ่ม Extensionเพิ่มเติม คุณสามารถทำได้โดยคลิกที่ปุ่มข้างๆ (เช่น ปุ่มเมนูหรือไอคอนที่แสดงว่าเป็นส่วนเสริม) จากนั้นค้นหา Extension ที่คุณต้องการในแถบค้นหา หลังจากที่เจอ Extensionที่ต้องการแล้ว คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันทีเพื่อเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้กับแอปพลิเคชันของคุณ

ตัวอย่าง Extension ต่างๆที่มีให้ดาวน์โหลด

Schedule

แถบ Schedule ในระบบเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับการควบคุมการตั้งเวลาการทำงานอัตโนมัติของสคริปต์ โดยผู้ใช้สามารถ:

  1. เปิดหรือปิดการทำงานอัตโนมัติของสคริปต์แต่ละตัว

    • ผู้ใช้สามารถกำหนดให้สคริปต์ทำงานอัตโนมัติในช่วงเวลาที่กำหนดหรือหยุดการทำงานได้ตามต้องการ

  2. ปิดการใช้งาน Schedule ทั้งหมด

    • หากต้องการหยุดการทำงานอัตโนมัติทั้งหมดในระบบ สามารถเลือกปิดฟังก์ชัน Schedule ได้ทันที

  3. ลบการตั้งเวลาทั้งหมด

    • ผู้ใช้สามารถลบการตั้งเวลาและการกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ในระบบทั้งหมด หรือสามารถลบเฉพาะการตั้งเวลาในแต่ละสคริปต์ได้

  4. แก้ไขการตั้งเวลาในแต่ละสคริปต์

    • หากต้องการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาที่กำหนดให้สคริปต์ทำงานอัตโนมัติ สามารถเข้าไปแก้ไขเวลาได้ตามที่ต้องการ

  5. ตั้งค่าการทำงานซ้ำ

    • ฟีเจอร์นี้ยังรองรับการตั้งเวลาการทำงานซ้ำ เช่น การตั้งให้สคริปต์ทำงานทุกวัน, ทุกสัปดาห์, หรือทุกเดือน

  6. การแสดงผลการทำงานของแต่ละสคริปต์

    • แถบ Schedule จะแสดงสถานะการทำงานของแต่ละสคริปต์ เช่น ว่าสคริปต์นั้น ๆ กำลังทำงานอยู่หรือไม่ได้ทำงาน และหากมีการทำงานสำเร็จหรือผิดพลาด จะมีการแจ้งเตือน

  7. ความยืดหยุ่นในการตั้งเวลา

    • ผู้ใช้สามารถตั้งเวลาได้อย่างยืดหยุ่น เช่น เลือกช่วงเวลาตามที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน ซึ่งเหมาะสำหรับการทำงานที่ไม่ต้องการการแทรกแซง


Database

ในส่วนนี้เป็นพื้นที่สำหรับจัดการหรือเก็บข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบของตาราง Table ซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อบันทึก จัดระเบียบ และแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานต่างๆ ใน Workflow ของคุณ

โดยมีฟีเจอร์นี้รองรับการทำงานต่าง ๆ ดังนี้:

  1. การสร้างตาราง (Table)

    • ผู้ใช้สามารถสร้าง ตารางใหม่ ได้ โดยสามารถกำหนดชื่อของตารางและเลือก ประเภทข้อมูล ที่แต่ละ Column จะเก็บได้ เช่น ข้อความ (Text), ตัวเลข (Number), วันเวลา (Date/Time) ฯลฯ

  2. การเพิ่ม Column ในตาราง

    • สามารถเพิ่ม Columns เข้าไปในตารางที่สร้างขึ้นใหม่ เพื่อเก็บข้อมูลในรูปแบบที่แตกต่างกัน

    • ผู้ใช้สามารถกำหนดชื่อของแต่ละ Column และ ประเภทข้อมูล ที่ต้องการให้แต่ละ Column เก็บได้

  3. การสร้างหลายตารางใน Database เดียวกัน

    • ฟีเจอร์นี้รองรับการสร้างตารางหลายตารางภายใน Database เดียวกัน ซึ่งช่วยในการจัดการข้อมูลหลายประเภทหรือหลายชุดข้อมูลภายในระบบเดียว

  4. การเชื่อมต่อระหว่าง Tables

    • Table ที่สร้างใน Database สามารถเชื่อมโยงข้อมูลหรือ เชื่อมกับตารางอื่นภายในสคริปต์ ได้อย่างสะดวก

    • การเชื่อมต่อระหว่าง Tables ช่วยให้สามารถทำงานร่วมกันได้ เช่น การดึงข้อมูลจากหลายตารางมาประมวลผลในสคริปต์เดียว

  5. การจัดการข้อมูล

    • ระบบรองรับการ เพิ่ม, แก้ไข, และลบข้อมูล ในแต่ละ Table ได้ง่ายดาย

สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อสร้างตารางคือการกำหนดชนิดของข้อมูลในแต่ละคอลัมน์ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ใส่ลงไปในตารางมีความสอดคล้องและถูกต้องตามประเภทที่กำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยให้การจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างของชนิดข้อมูลที่อาจกำหนดได้ในแต่ละคอลัมน์ ได้แก่:

  • Text (ข้อความ): สำหรับข้อมูลที่เป็นตัวอักษร เช่น ชื่อผู้ใช้งาน, อีเมล, สถานะ เป็นต้น

  • Number (ตัวเลข): สำหรับข้อมูลที่เป็นตัวเลข เช่น จำนวน, คะแนน, หรือข้อมูลเชิงปริมาณอื่นๆ

  • Array: เป็นโครงสร้างข้อมูลชนิดหนึ่งที่ใช้ในการจัดเก็บชุดของข้อมูลที่มีชนิดเดียวกัน โดยข้อมูลใน Array จะถูกจัดเก็บในลำดับที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลแต่ละตัวได้โดยใช้ดัชนี (Index) ซึ่งเริ่มต้นที่ 0 (ในภาษาโปรแกรมส่วนใหญ่)

  • Boolean(จริง/เท็จ): สำหรับข้อมูลที่มีเพียงสองสถานะ เช่น ใช่/ไม่ใช่, เปิด/ปิด, หรือ Active/Inactive

  • Any: เป็นตัวแปรชนิดหนึ่งที่สามารถเก็บข้อมูลได้หลายประเภท โดยไม่จำกัดชนิดข้อมูลเฉพาะใด ๆ ซึ่งหมายความว่า Any สามารถเก็บได้ทั้งตัวเลข (Integers, Floats), ข้อความ (Strings), อาร์เรย์ (Arrays), วัตถุ (Objects) หรือข้อมูลประเภทอื่น ๆ การใช้งาน Any มักเกิดขึ้นเมื่อคุณไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่รับเข้ามาจะเป็นชนิดไหน หรือเมื่อคุณต้องการให้ฟังก์ชันหรือฟีเจอร์หนึ่ง ๆ สามารถทำงานกับข้อมูลหลายประเภทได้อย่างยืดหยุ่น


Logs

แถบ Logs ใช้สำหรับดูข้อความการรันบล็อกต่าง ๆ ภายในสคริปต์ โดยแยกตามแต่ละโปรไฟล์ที่ใช้รันสคริปต์นั้น ๆ ผู้ใช้สามารถทำได้ดังนี้:

  1. เลือกดูข้อความการรันบล็อกที่ถูกรันโดยโปรไฟล์ต่าง ๆ

    • ผู้ใช้สามารถเลือกดูข้อความการรันบล็อกของแต่ละสคริปต์ ที่ถูกรันโดยโปรไฟล์ต่าง ๆ โดยข้อมูลจะอยู่ในรูปแบบข้อความการรันของแต่ละบล็อก เรียงตามลำดับการทำงาน และแสดงสถานะว่าสำเร็จหรือไม่

  2. ดูข้อมูลตัวแปรภายในสคริปต์ที่ถูกรัน

    • ผู้ใช้สามารถดูตัวแปรที่ถูกเก็บในสคริปต์ ทั้งตัวแปรที่รับมาตั้งแต่เริ่มต้น และตัวแปรที่ถูกเก็บในระหว่างการทำงาน

  3. ดูข้อมูลตารางภายในสคริปต์ที่ถูกรัน

    • ผู้ใช้สามารถดูตารางข้อมูลที่ถูกเก็บในขณะที่สคริปต์กำลังทำงาน

  4. นำข้อมูลออกเป็นไฟล์

    • ผู้ใช้สามารถเลือกนำข้อมูลออกในรูปแบบไฟล์ JSON, CSV หรือ Plain text ตามต้องการ

  5. แก้ไข workflow หรือเลือกลบข้อมูลการรันบล็อก

    • ผู้ใช้สามารถเลือก Workflow ที่ต้องการแก้ไข แล้วกดเปิดใน Editor เพื่อแก้ไขด้วยตนเอง รวมถึงสามารถลบข้อมูลการรันบล็อกทีละรายการ หรือหลายรายการพร้อมกันได้


Pricing

แถบ Pricing เป็นส่วนที่ใช้ในการนำเสนอแพ็กเกจบริการของ Gemlogin ซึ่งประกอบด้วยแพ็กเกจทั้งแบบ รายเดือน และ รายปี โดยผู้ใช้สามารถ:

  • เลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน

  • ดูรายละเอียดและเปรียบเทียบคุณสมบัติของแต่ละแพ็กเกจได้อย่างชัดเจน

  • อัปเกรดแพ็กเกจได้ทันทีผ่านระบบโดยไม่ต้องรอ

  • เปลี่ยนแปลงแพ็กเกจได้ตามความต้องการอย่างยืดหยุ่น


Settings

แถบ Settings เป็นเมนูสำหรับการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในโปรแกรม โดยแบ่งออกเป็นหมวดหมู่หลัก ได้แก่

  • General ตั้งค่าทั่วไป เช่น การเปลี่ยนธีมโปรแกรม การตั้งค่าภาษา และการกำหนดโฟลเดอร์สำหรับเก็บไฟล์

  • Automation ตั้งค่าพื้นฐานก่อนเริ่มทำสคริปต์อัตโนมัติ เช่น การตั้งค่า Scale ของโปรไฟล์ ขนาดหน้าต่าง (Window size) การกำหนดขนาดบราวเซอร์ และการแบ่งส่วนหน้าจอ

  • Browser ปรับแต่งการทำงานของบราวเซอร์ เช่น กำหนด URL ที่ต้องการเปิดเมื่อเริ่มต้นโปรแกรม และการบันทึกหรือล้างคุกกี้เมื่อปิดบราวเซอร์

  • Editor ตั้งค่าเกี่ยวกับ Workflow เช่น การเปิดใช้งาน Auto-save การตั้งค่าการซูม และการจัดวางบล็อกตามกริด เพื่อความเป็นระเบียบ

  • Shortcuts กำหนดและปรับแต่งคีย์ลัดต่าง ๆ ภายในโปรแกรม เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน

  • Webhook ตั้งค่าการใช้งาน Webhook ของ Gemlogin เช่น การเชื่อมต่อกับระบบภายนอกอย่าง n8n เพื่อส่งคำขอแบบ POST มายัง Gemlogin


Developer/API

แถบ API เป็นส่วนที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถนำ API ของ Gemlogin ไปใช้ในการพัฒนาโปรแกรมหรือระบบต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ เพื่อเชื่อมต่อและควบคุมฟังก์ชันการทำงานของโปรแกรม

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฟังก์ชัน API ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาและปรับปรุง ปัจจุบันจึงสามารถใช้งานได้เฉพาะใน localhost เท่านั้น (หมายถึงใช้งานบนเครื่องเดียวกันกับที่ติดตั้งโปรแกรม)


Document

หน้าต่างนี้ใช้สำหรับลิงก์ไปยังเว็บไซต์คู่มือการใช้งานโปรแกรม ที่รวบรวมคำแนะนำและรายละเอียดฟีเจอร์ต่าง ๆ ไว้อย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ผ่านคู่มือ


Manager License

เป็นแถบที่ใช้ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ Dashboard ของระบบจัดการบัญชีผู้ใช้บนเว็บไซต์ Gemlogin ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการใบอนุญาต (licenses) ของโปรแกรมและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้:

  • Dashboard (แผงหน้าปัด) เป็นหน้าแรกของระบบที่จะแสดงข้อมูลสรุปสำคัญเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้และใบอนุญาตทั้งหมดที่ผู้ใช้มีอยู่ในระบบ โดยผู้ใช้สามารถดูภาพรวมการใช้งานใบอนุญาต จำนวนใบอนุญาตที่ยังใช้งานได้และหมดอายุ รวมถึงยอดเงินคงเหลือในบัญชี เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการแบบรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

  • Affiliate Program (พันธมิตร) เมนูนี้เป็นส่วนของโปรแกรมแนะนำเพื่อนที่ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมเพื่อรับรางวัลหรือคอมมิชชั่น โดยการชวนเพื่อนมาสมัครใช้งานหรือซื้อใบอนุญาตผ่านลิงก์แนะนำของตนเอง เป็นช่องทางเพิ่มรายได้เสริมจากการโปรโมตแพลตฟอร์มนี้

  • Product (ผลิตภัณฑ์) ในส่วนนี้จะแสดงรายการผลิตภัณฑ์หลักของระบบที่ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้ เช่น

    • GemLogin โปรแกรมสำหรับการรันงานอัตโนมัติบนเว็บเบราว์เซอร์

    • GemPhoneFarm โปรแกรมสำหรับการรันงานอัตโนมัติบนอุปกรณ์มือถือ Android

    • Service Manager (การจัดการบริการ) เครื่องมือสำหรับจัดการบริการและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในหน้าต่างนี้คุณสามารถเปลี่ยน Device ID ที่เชื่อมต่อกับแพ็กเกจ เพื่อย้ายอุปกรณ์ได้

  • Transaction (ธุรกรรม) เมนูนี้ใช้สำหรับการจัดการด้านการเงินทั้งหมดของบัญชีผู้ใช้ รวมถึงการฝากเงินเข้าสู่ระบบ (Deposit) เพื่อเติมเครดิตสำหรับซื้อใบอนุญาตหรือบริการต่าง ๆ และการตรวจสอบรายการธุรกรรมย้อนหลัง (Transaction) เช่น การเติมเงิน การชำระเงิน และการใช้งานเครดิตในแต่ละรายการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามและตรวจสอบสถานะทางการเงินได้อย่างละเอียด

  • Support (ศูนย์ช่วยเหลือ) เมนูศูนย์ช่วยเหลือนี้เป็นแหล่งรวมข้อมูลช่วยเหลือและคำแนะนำการใช้งานที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ด้วยตนเองเมื่อต้องการคำแนะนำหรือพบปัญหาในการใช้งานโปรแกรม พร้อมทั้งมีช่องทางติดต่อผ่านอีเมลและแชทสดสำหรับรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมแบบเรียลไทม์

Last updated

Was this helpful?